ช่างแอร์ภูเก็ต ติดตั้ง ซ่อม ล้าง ย้าย เติมน้ำยา แอร์ มาตรฐาน
- ช่างแอร์ภูเก็ต งานระบบปรับอากาศในภูเก็ต อาคาร โรงงานต่างๆ
- งานระบบระบายอากาศ อาคาร โรงงาน ในภูเก็ต
- งานดูดฝุ่นภูเก็ต ดูดความร้อน ดูดควัน ไอเสีย และกลิ่นต่าง ๆ
- ติดตั้ง ซ่อม ย้าย ล้าง จำหน่ายแอร์บ้าน ทุกยี่ห้อในภูเก็ต
- ติดตั้งแอร์อาคาร แอร์โรงงาน แอร์สำนักงาน แอร์บ้านภูเก็ต


งานล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ
1.1 ล้างทำความสะอาดแอร์ คอยล์เย็น พัดลม
1.2 ล้างทำความสะอาดฟิลคอยล์ (EVAPERRATOR) ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง
1.3 ดูดและเป่าทำความสะอาดระบบท่อน้ำทิ้งด้วย (BOLVER)
1.4 ล้างทำความสะอาดแผนกรองอากาศ (FILTER)
1.5 ตรวจเช็คจุดต่อสายไฟภายในระบบ และยึดสรูสายไฟให้แน่นหนา
1.6 ตรวจเช็ครอบความเร็วพัดลม (FANCOLL)
1.7 ตรวจเช็คสปีดและเทอร์โมรูม 1 (ล้างแอร์ใหญ่) คอยล์ร้อน (CONDESING UNIT)
1.8 ล้างทำความสะอาดแผงครีบคอนเดทซิ่งด้วยปั้งน้ำแรงดันสูงและ BLOVER
1.9 ตรวจวัดความดันของมอเตอร์ระบบความร้อน
1.10 ตรวจวัดความดันของระบบน้ำยา เช็คกำลังของคอมเพรสเซอร์
1.11 ตรวจเช็คการทำงานของไทม์เมอร์ และอุปกรณ์ช่วยสตาร์ททุกชนิดของระบบคอมเพรสเซอร์
1. เลือกประเภทแอร์ให้เหมาะกับสถานที่และการใช้งาน
- แอร์ติดผนัง สำหรับแอร์ชนิดนี้ เพื่อนๆ คงจะเคยเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย มีรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ทันสมัย และ มีขนาดกระทัดรัด อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน รวมไปถึงการดูแลรักษาที่ง่าย โดยแอร์ชนิดนี้ จะเหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็ก และ ตามบ้านหรือคอนโดทั่วไป
- แอร์ฝังในฝ้า จะเป็นแอร์ที่ติดเข้าไปภายในบริเวณฝ้าเพดาน ไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องแอร์ ท่อน้ำทิ้ง และท่อน้ำยา ซึ่งเหมาะสำหรับห้องที่เน้นในเรื่องความสวยงาม เนื่องจาก เมื่อติดแล้วจะไม่ค่อยเห็นตัวเครื่องของแอร์ ทำให้ภายในบ้านสวยเหมือนเดิม แต่แอร์ประเภทนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าแอร์ประเภทอื่นๆ นะคะ
- แอร์แขวนใต้ฝ้า จะเป็นแอร์ที่ติดตั้งใต้ฝาเพดาน ซึ่งมีการกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง และทนต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง และมีผู้คนอยู่เยอะ อาทิ อาคารสำนักงาน ร้านค้า เป็นต้น
- แอร์ตู้ตั้งพื้น เป็นแอร์อีกหนึ่งชนิดที่มีการกระจายความเย็นได้สูง และ ทนต่อการใช้งาน รวมไปถึงทนต่อฝุ่นควันอีกด้วย โดยลักษณะของแอร์จะเป็นแบบติดตั้งบนพื้น เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่ โรงงาน และ มีผู้คนหนาแน่น ซึ่งแอร์ประเภทนี้ จะเปลืองพลังงานกว่าแอร์ประเภทอื่นๆ ค่ะ
2. เลือกขนาดให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้อง
BTU คือ ขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดยย่อมาจากคำว่า British Thermal Unit ซึ่ง 1 ตันความเย็น จะเท่ากับ 12000 BTU ต่อชั่วโมง ฉะนั้นการเลือก BTU ย่อมมีความสำคัญ เพราะจะเกี่ยวเนื่องกับการประหยัดพลังและอายุการใช้งานของแอร์
แอร์ที่มี BTU สูงเกินไปนั้น จะทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย เนื่องจากมีการทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ประสิทธื์ภายในการทำงานลดน้อยลง และยังส่งผลให้มีความชื้นภายในห้องสูง อาจทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยป่วยหรือไม่สบายได้ อีกทั้งยังทำให้เปลืองพลังงานอีกด้วยค่ะ
แอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไปนั้น ก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลาและหนักจนเกินไป เพราะอุณหภูมิความเย็นไม่ตรงตามที่ตั้งหรือกำหนดไว้ ซึ่งจะส่งผลทำให้แอร์เสียได้ง่าย และ เปลืองพลังงานค่ะ
3. เลือกแบบประหยัดพลังงาน
สำหรับการเลือกซื้อแอร์ แนะนำว่าควรเลือกสินค้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะนั้นหมายถึง คุณภาพในการใช้พลังงานที่คุ้มค่าที่สุด ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายได้นั้นเอง
4. เลือกและเปรียบเทียบคุณสมบัติพิเศษต่างๆ
อย่างที่ได้เกริ่นไปในข้างต้น ว่าเแอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้น มีมากมายหลายแบบ ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ เทคโนโลยีการฟอกอากาศ, เทคโนโลยีควบคุมความเย็นอัตโนมัติ เป็นต้น
ภูเก็ต
ติช่างแอร์บ้าน อำเภอกะทู้
ติช่างแอร์บ้าน กมลา
ติช่างแอร์บ้าน กะทู้
ติช่างแอร์บ้าน ป่าตอง
ติช่างแอร์บ้าน อำเภอถลาง
ติช่างแอร์บ้าน ป่าคลอก
ติช่างแอร์บ้าน ศรีสุนทร
ติช่างแอร์บ้าน สาคู
ติช่างแอร์บ้าน เชิงทะเล
ติช่างแอร์บ้าน เทพกระษัตรี
ติช่างแอร์บ้าน ไม้ขาว
ติช่างแอร์บ้าน อำเภอเมืองภูเก็ต
ติช่างแอร์บ้าน กะรน
ติช่างแอร์บ้าน ฉลอง
ติช่างแอร์บ้าน ตลาดเหนือ
ติช่างแอร์บ้าน ตลาดใหญ่
ติช่างแอร์บ้าน รัษฎา
ติช่างแอร์บ้าน ราไวย์
ติช่างแอร์บ้าน วิชิต
ติช่างแอร์บ้าน เกาะแก้ว